รายงานพิเศษ : INSET หุ้นเด่นอนาคตไกล อานิสงส์รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน 5G กูรูฟันธง! เป็นรอบลงทุนใหญ่ช่วงระยะ 3-4 ปี
"อินฟราเซท" ผู้นำและเชี่ยวชาญทางด้านวางระบบโครงสร้างพื้นฐานครบวงจรพร้อมลุยงานใหญ่ในยุคผลัดเปลี่ยนเข้าสู่ 5G หัวเรือใหญ่ "ศักดิ์บวร พุกกะณะสุต" กรรมการผู้จัดการ ลั่นโควิด-19 ไม่ระคายขนหน้าแข้ง มั่นใจปีนี้กำไรโต 10-15 % ไต่สถิติสูงสุดใหม่ ด้วยงานในมือตุนรวมกว่า 2 พันล้านบาท ชี้ศูนย์ Data Center มีความจำเป็นเพิ่มขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์หุ้นยกนิ้วให้ INSET เป็นหุ้นกำไรโตจากการที่อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับสื่อสารจะเป็นอีกรอบลงทุนใหญ่ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ชี้ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 4.16 บาท
ตัวจริงในวงการระบบโครงสร้างพื้นฐานครบวงจร
บมจ. อินฟราเซท หรือ INSET นับเป็นผู้ประกอบการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานครบวงจร โดยเชี่ยวชาญสูงด้านโทรคมนาคม รับงานครอบคลุมที่สุดเป็นรายใหญ่และรายเดียวในวงการ ซึ่งทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า New Normal ของยุคใหม่มิอาจปราศจากเรื่องของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผนวกกับเทคโนโลยีสื่อสารได้เลย
ขณะที่ ผู้บริหารสูงสุดซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกิจการ คือ "ศักดิ์บวร พุกกะณะสุต" ก็มีประสบการณ์สายตรงในธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) มากว่าทศวรรษทั้ง งานรับเหมาแบบเบ็ดเสร็จ, งานติดตั้งเสาส่งสัญญาณ, งานติดตั้งระบบโครงข่าย, งานบริการดูแลรักษาสำหรับโครงการที่เป็นศูนย์ข้อมูล โครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และโครงสร้างระบบโทรคมนาคม ผ่านมือมาแล้วนับไม่ถ้วน
เดินหน้าลุยงานรองรับอานิสงส์การเข้าสู่ 5G
การผลัดเปลี่ยนจากยุค 4G เข้าสู่ 5G นั้น ทำให้ตลาดผู้รับเหมางานที่เกี่ยวข้องกับโทรคมนาคม ล้วนได้ประโยชน์ไปแทบทั้งสิ้น ไม่เพียงการลงทุนในตัวโครงสร้างพื้นฐานจะมีมูลค่าสูงและมีจำนวนถี่ต่อตารางพื้นที่มากกว่าในยุค 4G แถมอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องเทคโนโลยีก็ต้องดัดแปลงหรือเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่มารองรับแทบทั้งสิ้น และเท่ากับว่างานซ่อมบำรุงก็จะมากขึ้นตาม ในอีกด้านก็ย่อมมีการด้านการถอดรื้อถอนโครงสร้างเทคโนโลยีเก่าพ่วงเข้ามาด้วย
นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กล่าวว่า " INSET มีการดำเนินงานแบบครบวงจรย่อมได้รับอานิสงส์แน่นอน บริษัทฯ ทำครบทุกส่วนในการขยายโครงข่ายโทรคมนาคมเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G ทั้งด้านงานก่อสร้างเสาส่งสัญญาณ งานติดตั้งระบบโครงข่ายสายสัญญาณใยแก้วนำแสง ก่อสร้าง-ขยาย Data Center งานให้บริการหลังการขายของทั้ง เสา สาย และ Data Center ดังนั้นทุกสายงานธุรกิจจึงมีงานมากขึ้นทั้งหมด ยิ่งงานประเภทงานวางสายโครงข่ายจะโตแบบก้าวกระโดด"
โรคระบาดโควิด-19 ไม่ใช่ปัญหา
ผู้บริหารให้ข้อมูลอีกว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ INSET เพียงเล็กน้อยเนื่องจากการทำงานแบบ Outdoor เป็นหลัก ขณะที่พนักงานในออฟฟิศบางส่วน ก็ปรับรูปแบบเป็นทำงานที่บ้าน (Work From Home) ได้เช่นกัน ซึ่งในภาพรวมการทำงานยังเดินหน้าไปได้ โดยเฉพาะติดตั้งระบบอย่างยังคงเป็นไปต่อเนื่องหลังค่ายมือถือแต่ละแห่งเข้าสู่ระยะของการลงทุนรอบใหม่หลังได้รับใบอนุญาตคลื่น 5G เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
มั่นใจปี 2563 จะเติบโต 10-15 % สร้างสถิติสูงสุดใหม่
INSET มั่นใจถึงแนวโน้มรายได้ในปี 2563 ว่าจะขยายตัว 10-15 % สร้างสถิติสูงสุดใหม่ จากปีก่อนทำได้ 1,220 ล้านบาท ตามแผนงานที่วางไว้ โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 600-700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ไปถึง 5 ปี (2567)
"ความต้องการศูนย์ Data Center ก็มีความจำเป็นที่ต้องมีการขยายหรือเพิ่มจำนวนตามปริมาณและการใช้ข้อมูลในยุค 5G จึงส่งผลให้ INSET มีโอกาสจะได้รับงานด้านนี้อีกจำนวนมากในอนาคต ดังนั้นนอกจากปีนี้บริษัทฯ จะเติบโตได้ตามแผนงานที่วางไว้ ใน 3 ปี หรือ 5 ปีก็จะยังคงมีงานให้เราทำอีกมาก" หัวเรือใหญ่ INSET กล่าวอย่างมั่นใจ
นักวิเคราะห์หุ้นฟันธง! เป็นรอบลงทุนใหญ่ช่วงระยะ 3-4 ปี
บทวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส แนะนำซื้อ INSET ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 4.16 บาท โดยคาดการณ์กำไรสุทธิที่จะประกาศของไตรมาส 1/63 อยู่ที่ 19.7 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วน Backlog หลังการรับรู้รายได้งวดไตรมาส 1/63 คาดว่ายังทรงตัวสูงได้เกิน 2 พันล้านบาทโดยมองว่าภาพรวมธุรกิจงานรับเหมาโทรคมนาคม ยังถือว่าเป็นธุรกิจที่กระทบจาก โควิด-19 จำกัด ขณะที่แนวโน้มระยะถัดไปดูดี ตามปริมาณการลงทุนระบบโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาวะปัจจุบันที่มีความต้องการใช้โทรคมนาคมสูงอย่างรวดเร็ว ช่วยให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ สายไฟเบอร์, เสาสัญญาณ และ Data Center ซึ่งเป็นงานถนัดของ INSET ยังมีต่อเนื่อง และหลังจากนี้จะเป็นคิวการลงทุนเอกชนที่เริ่มเปิดให้รับงานลงทุนระบบ 5G ซึ่งคาดหมายจะเป็นอีกรอบลงทุนใหญ่ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า
ด้านภาพรวมช่วงที่เหลือของปีน่าจะทยอยรับงานใหม่ไม่ต่ำกว่า 1-1.5 พันล้านบาท คาดการณ์รายได้ปีนี้ที่ 1.4 พันล้านบาทเชื่อว่าเป็นไปได้ พร้อมประมาณการกำไรปี 2563 ที่ 146 ล้านบาท เติบโต 22%
ขอบคุณข่าวจาก
https://www.share2trade.com/?mod=talk&file=view&id=8615
